ลำพูน เมืองรองที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ ที่นี่มีวัดวาอารามสวยงามอย่างวัดพระธาตุหริภุญชัย เป็นต้นกำเนิดของงานศิลปหัตถกรรมผ้าไหมยกดอก และเป็นแหล่งที่มี ‘สล่า’ หรือช่างพื้นเมืองอาศัยอยู่จำนวนมาก บนถนนสายหลักของเมืองยังคงปรากฏให้เห็นสถาปัตยกรรมรูปแบบดั้งเดิมที่เป็นอาคารไม้หลังเก่า ONCE พาไปอัพเดตเมืองที่มีขนาดเล็กที่สุดในภาคเหนือ และเป็นเมืองที่รวมความเก่าและใหม่ไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน
พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำพูนมายาวนานนับพันปี และยังเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีระกา ว่ากันว่า หากใครได้มาเยือนลำพูน ต้องแวะมาสักการะพระธาตุหริภุญชัยแห่งนี้ อันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ อาทิ ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ ฯลฯ องค์พระธาตุมีลักษณะศิลปะแบบล้านนา ปิดด้วยทองจังโกสีเหลืองอร่ามทั้งองค์ ความงดงามขององค์พระธาตุหริภุญชัยยังสะท้อนผ่านเจดีย์ทรงระฆัง ซึ่งเป็นต้นแบบและมีอิทธิพลต่อพระธาตุเจดีย์องค์อื่นๆ อีกหลายแห่ง เช่น พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง และพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน
เราเชื่อว่าที่นี่จะเป็นหอศิลป์ที่คนรักงานศิลปะสามารถใช้เวลาเพลิดเพลินและดื่มด่ำกับงานศิลป์หลากหลายประเภทได้ตลอดทั้งวัน เพราะหอศิลป์ อินสนธิ์ แห่งนี้ ได้รวมงานศิลปะไว้มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลงานของ อินสนธิ์ วงศ์สาม ผู้ก่อตั้งหอศิลป์ และศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) พ.ศ.2542 บนพื้นที่ 16 ไร่อันแสนกว้างขวางของหอศิลป์แห่งเมืองลำพูน ประกอบด้วยอาคารจัดแสดงผลงานศิลปะที่กระจายกันอยู่ในพื้นที่ มีทั้งงานประติมากรรม ภาพพิมพ์ วาดเส้น จิตรกรรม ฯลฯ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยที่แสนร่มรื่น ชวนให้การเยี่ยมชมงานศิลปะเป็นความรื่นรมย์
หนึ่งในแลนด์มาร์กอีกแห่งของเมืองลำพูน นั่นคือ สวนไม้ไทยพ่อเลี้ยงหมื่น เดิมทีที่นี่เป็นแหล่งสร้างสรรค์งานเครื่องปั้นดินเผาของ สุทธิพงษ์ ใหม่วัน หรือพ่อเลี้ยงแดง ซึ่งใช้ดินเหนียวของลำพูนผลิตงานประติมากรรมย้อนยุค พื้นที่ภายในสวนกว้างใหญ่ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ สวนสีเขียว มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สะท้อนถึงงานศิลปะดั้งเดิม อาทิ ปราสาทขอมโบราณ ที่ตกแต่งด้วยงานดินเผาอิฐสีแดง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีร้านกาแฟ The Terracotta Garden ที่เป็นเรือนไม้ดินเผา ปกคลุมไปด้วยสวนไม้นานาพันธุ์ สร้างความรื่นรมย์ไปทั่วบริเวณ
ผืนดินกว้างใหญ่ 20 ไร่ของตำบลริมปิง จังหวัดลำพูน เป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งของเมืองเพราะที่นี่เลยก็ว่าได้ เหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัว คนชอบผจญภัย หลงใหลประวัติศาสตร์ รวมไปถึงสายคาเฟ่ ที่อยากนั่งชิลล์ท่ามกลางแมกไม้ ที่นี่สร้างขึ้นเมื่อปี. 2525 โดยสุทธิพงษ์ ใหม่วัน ผู้ชื่นชอบงานศิลปะด้านการปั้น จึงได้สร้างสรรค์งานประติมากรรมปราสาทแบบขอมโบราณและร้านกาแฟขึ้น
คาเฟ่ดีไซน์น่ารัก ที่รีโนเวตมาจากโรงเก็บผลไม้เก่า โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมทรงโดมสีขาว ท่ามกลางลานสนามหญ้าสีเขียว ติดกับแม่น้ำกวง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดลำพูน คาเฟ่ Judy เป็นชื่อที่ตั้งตามชื่อแมวตัวโปรดของ พิง-พัทธ์ธีรา ชัยอนันต์ เจ้าของร้านสาวหน้าหวาน ภายในร้านตกแต่งให้มีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้านเมืองหนาว เช่น มุมหน้าเตาผิง ส่วนใครที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศเอาต์ดอร์ สามารถยกเก้าอี้ออกไปกางบนลานสนามหญ้าได้ตามสะดวก ด้านอาหารของทางร้านเป็นเมนูจากครัวหลังบ้านของเจ้าของร้าน เช่น ขนมจีนน้ำเงี้ยวซี่โครงหมู ข้าวซี่โครงหมูอบสับปะรด เป็นต้น (อ่านเพิ่มเติม)
จากตึกเก่ากลางเมืองลำพูน สู่คาเฟ่และแกเลอรีศิลปะในนามว่า Temple House Lamphun โปรเจกต์ที่ทำร่วมกันระหว่าง ดร.สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์และสถาปนิกชื่อดัง ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไชยยง รัตนอังกูร อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Wallpaper ที่นี่ยังคงโครงสร้างเดิม แต่รีโนเวตภายในใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Soho House in New York’ ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ชาวลำพูนมีสถานที่นั่งชิลล์ ชมงานศิลปะที่จัดแสดงแบบหมุนเวียน นอกเหนือจากกาแฟ และเค้กโฮมเมดสดใหม่ ที่นี่ยังจำหน่ายของท้องถิ่นที่ ดร.สิงห์ เคยเข้าไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกหลายรายการ (รู้จัก Lamphun City)
ร้านกาแฟแนว Slow Bar ที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองลำพูน ถัดจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนไปอีก 100 เมตร S’KOV เป็นภาษาอาข่าแปลว่า “เพื่อน” ที่นี่ใช้กาแฟท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นให้มีรายได้ เช่น กาแฟเทพเสด็จ ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ กาแฟป่าแป๋ ลำพูน กาแฟแม่สรวย เชียงราย เป็นต้น ใครมาคาเฟ่แห่งนี้อาจต้องใจเย็นรอสักหน่อย เพราะเขาใช้วิธีการชงแบบดริปกาแฟ และเครื่อง Roxpresso ซึ่งต้องใช้ทักษะ ความชำนาญของบาริสตา และนอกเหนือจากกาแฟที่มีหลากหลายเมนูแล้ว ทางร้านยังมีสโคน ที่เสิร์ฟคู่กับแยมโฮมเมดธรรมชาติอีกด้วย
ลำพูนได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านของชาวยอง กลุ่มชาติพันธุ์ไตลื้อหรือไทลื้อ โดยเฉพาะที่บ้านดอนหลวง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซางนั้น เป็นหมู่บ้านของชาวยองที่มีการทอผ้าฝ้ายสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันที่นี่เป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากจะเป็นตลาดสำหรับคนรักผ้าฝ้ายได้มาช็อปปิ้งสัมผัสกับงานผ้าพื้นเมืองแล้ว ในชุมชนยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรม เช่น ลองปักผ้าและการมัดย้อมด้วยสีธรรมชาติ รวมไปถึงกิจกรรมทำอาหารพื้นบ้านของชาวยอง เช่น ยำผักรวม หมี่สะแน็ต พิซซ่าเตาเผา เรียนรู้วิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของชาวยองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โรงงานผลิตเซรามิกแห่งเดียวของเมืองลำพูน ที่ยังคงผลิตผลงานด้วยมือล้วนๆ มานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่การขึ้นรูป การลงสีลวดลายต่างๆ การปั้น การแกะ ฯลฯ โดยมีเจตนาที่ต้องการสืบสานศิลปะแบบไทยให้อยู่คู่กับไทย งานแฮนด์เมดของที่นี่จัดเป็นงานคุณภาพสูง มีความประณีตและมีเพียงชิ้นเดียวในโลก สำหรับจุดเด่นของชวนหลงอยู่ที่ ใช้ดิน 3 ชนิด ได้แก่ ดินขาว ดินดำ และดินแดง ซึ่งดินแต่ละประเภทมีลักษณะพิเศษในตัวที่แตกต่างกันออกไป บวกกับสูตรเคลือบที่มีการคิดค้น ทดลอง และพัฒนาสูตรใหม่ๆ ตลอดเวลา ทำให้ชิ้นงานของชวนหลง ชวนหลงสมชื่อและครองใจลูกค้าตลอดมา
ที่พักท่ามกลางธรรมชาติแห่งนี้ เราขอยกให้เป็นหนึ่งในลิสต์ที่นักเดินทางห้ามพลาดเมื่อมาเยือนลำพูน “บ้านไก่ม่วน” สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดพอเพียง โดย ใหม่-อุไรวรรณ ชัยพิพัฒน์ อดีตเจ้าของบริษัทรับจัดอีเวนต์และออร์แกไนเซอร์ ที่วางแผนย้ายครอบครัวจากเมืองกรุง มาใช้ชีวิตที่ลำพูน “บ้านไก่ม่วน” ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนขนาด 6 ไร่ ประกอบด้วย บ้านพักหลังเล็ก 2 หลัง แบ่งเป็น 2 ห้องพัก รองรับได้ห้องละ 2-4 คน และบ้านแบบน็อกดาวน์อีก 2 หลัง แต่ละหลังรองรับได้ 4-6 คน ล่าสุดเพิ่งทำโซนครัวที่แยกออกมาจากบ้านพักเพื่อให้เป็นสเปซที่ลูกค้าสามารถทำอาหาร และกิจกรรมร่วมกันได้
ว่ากันว่า หากใครมาลำพูน ต้องแวะไปชิมหมูทอดรสเด็ดที่ร้าน “จ่าเหลา หมูทอด” กับเมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดา และร่ำลือกันว่ามานานอร่อยจนคนแน่นร้านตลอด โดยเฉพาะเมนูหมูสามชั้นทอดร้อนๆ กับข้าวเหนียว พร้อมน้ำพริกมะเขือเทศ และน้ำพริกหนุ่มสูตรเด็ด ร้านระดับตำนานแห่งนี้เริ่มมาจาก จ่าเหลา อดีตนายทหารที่เป็นต้นตำรับหรือรุ่นบุกเบิก ก่อนที่ปัจจุบันจะส่งต่อมายังลูกหลานให้ดำเนินกิจการต่อ ตัวร้านอยู่ในตลาดโต้รุ่ง ใกล้กับอนุสาวรีย์เจ้าแม่จามเทวี สามารถนั่งกินที่ร้านได้เลยหรือจะซื้อกลับก็ได้เช่นกัน
ลำพูนเป็นเมืองที่ผสมระหว่างความเก่า-ใหม่อยู่ด้วยกัน และร้านกาแฟแห่งนี้น่าจะเป็นความทันสมัยของเมืองที่เป็นจุดปักหมุดของคนรุ่นใหม่ในลำพูนได้มานั่งชิลล์ Black to Basic ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนน โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์ลอฟต์ เน้นการใช้วัสดุอิฐบล็อกสีปูนดิบเท่ๆ ส่วนบรรยากาศในร้านเน้นโทนสีขาว ดำ เทา หากแต่ภายในโปร่งโล่งไม่อึดอัดด้วยเพดานสูงโปร่ง และมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ อีกหลายมุมเลยทีเดียว ด้านกาแฟของที่นี่ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะใช้เมล็ดกาแฟจากหลายแหล่งให้ลูกค้าเลือกได้ตามชอบ เช่น ไทย เอธิโอเปีย บราซิล เป็นต้น
มาถึงลำพูนต้องแวะสักการะพระรอด หนึ่งในพระเครื่องเบญจภาคีและต้นกำเนิดมาจากกรุวัดมหาวันวรมหาวิหารกลางเมืองลำพูนนี่เอง วันนี้วัดมหาวันฯ มีกิจกรรมที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมลงมือทำ เช่น ทำเครื่องสักการะล้านนาอย่างกรวยดอกไม้หรือสวยดอก ตัดตุงไส้หมู รวมทั้งการปั้นพระรอดซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่